เลือกใช้ตู้เสื้อผ้าอย่างไร? ให้เหมาะสมกับพื้น และให้การใช้งานอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด

ตู้เสื้อผ้าจะมีความสำคัญในด้านการจัดเก็บ กลุ่มของเสื้อผ้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เสื้อ, กางเกง, กระโปรง, ชุดเดรส และชุดชั้นใน จึงต้องมีจุดเก็บอย่างเหมาะสมในแต่ละประเภทของเครื่องแต่งกาย พร้อมทำให้การจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน และไม่เกิดความเสียหายต่อเสื้อผ้าง่ายจนเกินไป ดังนั้นการเลือกใช้ตู้เก็บเสื้อผ้าทั่วไป และตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน จึงต้องวิเคราะห์ให้ดีว่ามีปัจจัยใดบ้าง ที่คุณจะสามารถนำมาเป็นตัวช่วยให้การเลือกได้อย่างตรงใจ ดังนั้นจึงขอแนะนำวิธีการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้า เพื่อให้เหมาะสมกับทั้งพื้นที่และประโยชน์ใช้งานของตัวคุณเอง ดังนี้

1.เลือกจากช่องเก็บของ

เริ่มต้นจากการเลือกดูชั้นเก็บของ คุณอาจเลือกตู้เสื้อผ้าที่มีชั้นเก็บของหลากหลาย เพื่อให้เหมาะต่อการเก็บเครื่องแต่งกายต่าง ๆ แต่ถ้ามีการใช้เป็นสไตล์เฟอร์บิ้วอิน อาจจะต้องเพิ่มช่องเก็บของที่มากขึ้น และกลายเป็นหลายดีไซน์มาผสมผสานกัน เรียกได้ว่าจะไม่ใช่เพียงแค่ตู้เสื้อผ้าใบเดียว แต่อาจจะมีเพิ่มขึ้นเพื่อให้เก็บได้ทุกส่วนอย่างเหมาะสม และจัดกลุ่มได้ชัดเจน เช่น จุดเก็บเสื้อธรรมดา, เสื้อสูท, กางเกง, กระโปรง, เครื่องประดับรองเท้า, ชุดชั้นใน และเครื่องแต่งกายในประเภทอื่น ๆ ซึ่งการใช้ตู้เสื้อผ้าสไตล์นี้ อาจจะต้องเป็นแบบบิ้วอินในห้องที่มีขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ และส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตู้แบบไม่มีประตู เพื่อทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

2.เลือกจากการติดตั้ง

การติดตั้งตู้เสื้อผ้าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณต้องรู้ โดยให้คุณประเมินว่าห้องที่คุณอยู่ สามารถเลือกใช้ตู้แบบไหน ถึงจะให้ความสะดวกได้ดีที่สุด ถ้าเป็นแบบบิ้วอินจะเป็นการทำเฟอร์นิเจอร์ติดกับผนัง ซึ่งจะต้องใช้งานไปอีกยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนบ่อย และมีการใช้งานเพื่อจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ จำนวนมาก เพราะตู้ในลักษณะนี้จะมีขนาดใหญ่ เหมาะต่อห้องนอนและห้องคอนโด ที่ไม่ต้องการกินพื้นที่ภายในห้องมากเกินไป แต่ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนดีไซน์ตู้เพื่อให้เหมาะต่อการแต่งบ้านในอนาคต อาจต้องเลือกเป็นตู้ทั่วไปหรือตู้แบบลอยตัวที่มีขนาดค่อนข้างจำกัด จะไม่ใหญ่เท่าตู้บิวอิน และค่อนข้างกินพื้นที่แต่สามารถเปลี่ยนได้ตลอด

3.เลือกขนาดที่เข้ากับพื้นที่

ถ้าคุณอยู่ในห้องที่มีพื้นที่ไม่มาก หรืออาจจะเป็นห้องใต้หลังคาที่มีสัดส่วนไม่พอดี อาจจะต้องเลือกตู้ที่สามารถเข้ามุมได้ มีดีไซน์เป็นโมเดิร์น พร้อมแนะนำการใช้เป็นตูเสื้อผ้าบานเลื่อน ที่จะไม่กินพื้นที่ภายในห้องแน่นอน ส่วนแนวทางของการซื้อตู้มาใช้ ควรนำความกว้าง ความสูง และความยาวของห้อง กับจุดที่ต้องการวางมาคูณกัน จะได้ออกมาเป็นขนาดของตู้เสื้อผ้าที่ใช้งานได้อย่างเหมาะสมต่อพื้นที่มากที่สุด

4.เลือกจากรูปแบบบานประตู

บานประตูตู้เสื้อผ้าถูกแบ่งออกเป็นบานเปิด-ปิดตามปกติ และแบบบานเลื่อน ที่จะให้การใช้งานแตกต่างกันออกไปและประตูทั้ง 2 รูปแบบ สามารถใช้ได้กับตู้เสื้อผ้าทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแบบตู้โปร่งที่ไม่มีประตู ซึ่งจะเหมาะสำหรับการทำเป็นตู้บิ้วอิน เพื่อให้การใช้งานง่ายมากขึ้น แต่บานสำหรับเปิด-ปิดจะเหมาะสำหรับห้องกว้าง สามารถจัดวางในมุมที่เหมาะสม และเปิดประตูออกมาแล้วไม่ชนกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ วางที่บริเวณใกล้กับเตียงหรือปลายเตียงได้ แต่จะต้องมีระยะของการเปิดพอดี ส่วนตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน จะตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่น้อยภายในห้องขนาดเล็กและห้องคอนโด สะดวกด้วยการไม่ชนต่อเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ และถ้าเลือกใช้เป็นบานกระจก จะช่วยพรางตาให้ห้องดูกว้างมากขึ้น แต่การทำความสะอาดอาจจะค่อนข้างยาก ส่วนตู้แบบโปร่งไม่มีประตูปิด จะเหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ สามารถติดตั้งแบบบิ้วอินได้ หรือเลือกใช้เป็นขนาดเล็กที่เหมาะกับห้องที่มีความแคบได้เช่นกัน

5.เลือกจากวัสดุที่ใช้

วัสดุที่นำมาใช้เพื่อผลิตตู้เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่คุณจะต้องตรวจสอบ โดยจะมีทั้งวัสดุไม้จริง ไม้เทียม พลาสติกคุณภาพ เหล็กและโลหะต่าง ๆ ซึ่งจะให้ราคาที่แตกต่างกันออกไป ถ้าคุณชื่นชอบความเรียบง่าย ให้ความอบอุ่น และเข้าได้กับทุกพื้นที่ แนะนำการเลือกเป็นตู้ไม้ ทั้งแบบไม้เทียมและไม้แท้ ซึ่งไม้เทียมที่ได้รับความนิยมมาก คือ ไม้พาร์ติเคิล เพราะราคาไม่สูงและให้ความแข็งแรง พร้อมสีที่คล้ายกับไม้จริงเป็นอย่างมาก หรือเลือกใช้เป็นไม้ MDF สำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะ ซึ่งจะให้พื้นผิวที่เรียบเนียนเป็นอย่างมาก ส่วนของพลาสติกจะมีราคาประหยัด และในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เป็นโมเดิร์นมากขึ้น ทั้งยังให้การใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน แต่รูปแบบจะมีน้อย ส่วนแบบตู้โลหะหรือเหล็ก จะเหมาะสำหรับการแต่งบ้านสไตล์ Loft และ Industrial ให้ความเรียบง่าย ด้วยโทนสีพื้นฐานทั่วไป พร้อมให้ความแข็งแรงทนทาน แต่จะต้องเลือกที่มีการเคลือบกันสนิมมาแล้ว จึงจะช่วยให้การใช้ไม่ต้องกลัวเรื่องการทำให้เสื้อผ้าเสียหาย

6.การติดตั้งต้องง่าย

ปัจจัยการเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าทั่วไป และตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนเรื่องสุดท้าย คือ เรื่องของการติดตั้งที่เมื่อคุณซื้อมาแล้ว จะต้องติดตั้งได้ง่าย มีจุดเชื่อมและจุดล็อคที่เห็นอย่างเด่นชัด มีความแข็งแรง เมื่อนำมาประกอบกันแล้ว จะต้องให้ความแข็งแกร่งได้ดี พร้อมมีประกันหลังการขาย เพื่อเพิ่มความมั่นใจต่อการเคลม

ถ้าคุณต้องการตู้เสื้อผ้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้อย่างมั่นใจ ให้การเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยตกแต่งบ้านได้อย่างเหมาะสม แนะนำวิธีการเลือกทั้ง 6 วิธีนี้ นอกจากจะทำให้คุณได้ตู้เสื้อผ้าที่ตรงใจแล้ว ยังเป็นตู้ที่มีคุณภาพ ให้การใช้งานได้ยาวนานและไม่เสียหายง่ายอีกด้วย

เว็บไซต์ Furinbox ใช้คุกกี้เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดี การคลิกปุ่มยอมรับ หรือ ใช้งานเว็บไซต์ของเราถือเป็นการยอมรับ นโยบายการใช้งานคุกกี้
ยินยอม